ขอโอนย้ายสหกรณ์
Posted:
ประภาส ถ้วยทอง
Date:
2013-10-29 16:05:42
ขออนุญาตสอบถามเรื่องการย้ายสหกรณ์ ไปเป็นสมาชิกสหกรณ์ของสรรพาวุธ ได้สอบถามทางสรรพาวุธแล้วยินดีรับโอนย้าย กระผมต้องดำเนินการอย่างไรบ้างครับ และใช้เวลานานเท่าไหร่จึงจะย้ายได้ครับ
ความคิดเห็นที่
1
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2013-10-30 07:36:33
เรียนท่านสมาชิก สหกรณ์ใน ทร.มีข้อตกลงว่าจะไม่ให้สมาชิกทำการโอนย้ายระหว่างสหกรณ์ โดยหากสมาชิกประสงค์จะเป็นสมาชิกสหกรณ์อื่นจะต้องลาออกจากสหกรณ์เดิม ซึ่งมีเงื่อนไขคือสมาชิกที่จะลาออกจะต้องไม่มีหนี้สิน และไม่มีภาระค้ำประกันครับ ข้อมูลที่ จนท.ของ สอ.สพ.ทร.แจ้งเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนไม่เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างสหกรณ์ใน ทร.ครับ
ความคิดเห็นที่
2
โดย :ประภาส ถ้วยทอง 2013-10-30 08:19:02
ถ้ายื่นเรื่องลาออก จะมีผลตั้งแต่เมื่อใดครับ สามารถสมัครสหกรณ์อื่นได้เลยหรือไม่
ความคิดเห็นที่
3
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2013-10-30 08:36:04
ต้องใช้เวลาครับ เพราะการลาออกต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ ซึ่งปกติประชุมเดือนละ 1 ครั้ง แล้วก็ขึ้นอยู่กับวันที่ท่านยื่นเรื่องว่าอยู่ในช่วงวันที่ จนท.จะรวบรวมเสนอในเดือนไหนครับ
ความคิดเห็นที่
4
โดย :ประภาส ถ้วยทอง 2013-10-30 17:25:28
ผมได้ทำการสอบถามเจ้าหน้าที่ สอ.สพ.แล้ว ได้คำตอบว่าสหกรณ์วังเดิม กฝร. โอนมาได้ทำให้ไม่เข้าใจว่าใครให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงแน่ แต่ถ้าบอกว่า สอ.นย.ไม่มีนโยบายที่จะให้สมาชิกโอนก็น่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่านะครับ จริง ๆ ถ้าเป็นไปได้น่าจะให้โอนได้สอบถาม สอ.สพ.เป็นอย่างดีแล้วน่าจะมีการประสานกันเพราะอย่างไรเสียก็อยู่ในทร.อยู่แล้วไม่น่าจะยุ่งยากมากนัก เมื่อ สอ.นย.ไม่ให้โอน และมีนโยบายไม่ให้กู้โปะธนาคารให้กู้ได้เฉพาะส่วนต่างที่เหลือ 30 % ของเงินเดือนผมว่าไม่ค่อยจะเป็นธรรมกับสมาชิก เนื่องจากที่สมาชิกส่วนใหญ่ไปกู้ธนาคารในขณะนั้นเพราะต้องการจำนวนเงินที่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายแม้จะแลกกับดอกเบี้ยที่สูงกว่า แต่เมื่อ สอ.ปรับเพดานเงินกู้ใกล้เคียงธนาคารแล้วสมาชิกก็กลับมากู้ที่ สอ. ขณะนี้แต่กลับได้รับคำตอบว่าไม่ให้กู้โปะธนาคาร ซึ่งมันผิดหลักการที่จะให้สมาชิกมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่การเป็นหนี้สองทางมันดีขึ้่นตรงไหนผมก็ไม่เข้าใจครับ ต้องขออนุญาตจริง ๆ ครับ ที่ยาวไปหน่อย
ความคิดเห็นที่
5
โดย :ครรชิต สิงหนาท 2013-10-31 09:03:58
อยากให้สอ.นย ตอบคำถามของสมาชิกท่านนี้ให้ชัดไปเลย ผมเห็นใจเขาจังเขาคงตรองมาหลายตลบแล้ว มีทางใดช่วยให้สมาชิกมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ก็เอาเลย
ความคิดเห็นที่
6
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2013-10-31 13:02:26
ตอบคำถามครับ 1.เรื่องข้อตกลงการโอนย้ายเป็นเป็นไปตามที่ได้แจ้งไปครับ และรับทราบกันทุกสหกรณ์ เหตุผลคือก่อนหน้านั้นมีการขอโอนย้ายกันระหว่างสหกรณ์เป็นจำนวนมาก สมาชิกบางส่วนเมื่อเห็นว่าเมื่อกู้สหกรณ์ไหนได้มากกว่าก็จะขอโอนย้ายไปสหกรณ์นั้น ซึ่งทุกสหกรณ์มีความเห็นร่วมกันว่านอกจากจะเป็นความยุ่งยากทางการปฏิบัติ แล้วยังไม่เป็นเป็นธรรมต่อสมาชิกคนอื่นด้วย เพราะอายุการเป็นสมาชิกเมื่อโอนย้ายจะได้รับสิทธิการนับอายุต่อเนื่อง ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับสิทธิที่จะได้รับ ยกตัวอย่างกรณีเสียชีวิต สมาชิกที่เป็นสมาชิกอื่นมาแล้ว 7 ปี ขอโอนย้ายไปสหกรณ์อื่น เช่น สอ.นย. เมื่อเสียชีวิต ถือว่ามีอายุการเป็นสมาชิก 7 ปี ทายาทจึงมีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์เป็นจำนวนเงินเท่ากับคนที่เป็นสมาชิก สอ.นย.ต่อเนื่องมา 7 ปี เป็นต้น ส่วนสหกรณ์ที่ท่านอ้างถึงจะปฏิบัติตามข้อตกลงหรือไม่ สอ.นย.ก็คงไม่สามารถทราบได้ แต่หากมีการขอโอนมาจริง ในทางปฏิบัติทุกสหกรณ์ก็จะสอบถามไปที่สหกรณ์เดิมว่าจะทำตามข้อตกลงหรือไม่ สำหรับ สอ.นย.นั้นจะพยายามปฏิบัติตามข้อตกลงเพื่อรักษาสัญญาที่ได้ให้ไว้ต่อกันและเพื่อรักษามาตรฐานของสหกรณ์ 2.เรื่องการไม่รับชำระหนี้ธนาคาร ที่ท่านสมาชิกมองว่าไม่เป็นธรรมนั้น อยากให้มองในมุมกลับว่า ปัจจุบัน สอ.นย.มีสมาชิกมาขอกู้เงินเป็นจำนวนมาก จนเงินที่มีไม่เพียงพอและสมาชิกต้องรอรับเงินกู้เป็นเวลานาน หากสอ.นย.ต้องกันเงินส่วนหนึ่งให้สมาชิกนำไปชำระหนี้ที่กู้ยืมจากธนาคารก็จะมีผลทำให้สมาชิกที่มีความเดือดร้อนจำเป็นจริง ๆ ไม่ได้รับเงินกู้ในเวลาที่ต้องการเพื่อนำไปแก้ปัญหาความเดือดร้อน ซึ่งแตกต่างจากสมาชิกที่ไปกู้ธนาคาร เพราะถือว่าได้เงินกู้นั้นไปแก้ปัญหาความเดือดร้อนแล้ว แต่ต้องการกลับมากู้ สอ.นย.เพราะต้องการเป็นหนี้ทางเดียวตามที่ท่านแจ้ง หรือบางท่านเห็นว่าดอกเบี้ยของ สอ.นย.ถูกกว่าจึงอยากจะกลับมากู้ สอ.นย.แทน แต่อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้คณะกรรมการได้พิจารณาแล้วว่าการงดชำระหนี้ธนาคารเป็นมาตรการชั่วคราวเพื่อไม่ให้กระทบต่อสมาชิกส่วนใหญเท่านั้น เมื่อถึงเวลาหนึ่ง สอ.นย.อาจจะมีโครงการให้กู้ปลดหนี้โดยเฉพาะ โดยแยกต่างหากจากผู้กู้ทั่วไปครับ
ความคิดเห็นที่
7
โดย :ประภาส ถ้วยทอง 2013-11-01 10:14:21
ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่
8
โดย :ครรชิต สิงหนาท 2013-11-02 08:31:56
นี่คือปัญหา>ปัจจุบันสอ.นย.มีสมาชิกมาขอกู้เงินเป็นจำนวนมาก จนเงินที่มีไม่เพียงพอและสมาชิกต้องรอรับเงินกู้เป็นเวลานาน จึงเรียนท่านคณะกรรมการบริหารให้ทำการบ้านด้วยครับ
ความคิดเห็นที่
9
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2013-11-03 10:57:13
เรียนท่านสมาชิก ปัญหาที่สมาชิกขอกู้เป็นจำนวนมากจนเงินไม่พอให้กู้นี้ คณะกรรมการได้แ้ก้ปัญญหาเฉพาะหน้าโดยกู้เงินจากภายนอก โดยกรรมการทั้ง ๑๕ ท่านเป็นผู้ค้ำประกันร่วมกัน ปัจจุบัน สอ.นย.กู้เงินจากภายนอกกว่า ๗๐๐ ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอบคุณคณะกรรมการทุกท่านเป็นอย่างมาก แต่ถึงแม้ สอ.นย.จะกู้ยืมเงินจากายนอกแล้วแต่เงินที่มีก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของสมาชิก แนวทางต่อไปที่คณะกรรมการกำลังทำอยู่คือการระดมทุนจากภายในโดยเชิญชวนให้สมาชิกฝากเงินเพิ่ม และถือหุ้นเพิ่มขึ้น สำหรับแนวทางที่ท่านสมาชิกเคยเสนอให้เปิดให้ซื้อหุ้นเพิ่มเป็นกรณีิพิเศษเป็นครั้งคราวนั้น สอ.นย.ได้ดำเนินการมาแล้ว ๑ ครั้งในปี งป.๕๖ ที่ผ่านมา และก็ได้ผลในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือสมาชิกที่สามารถซื้อหุ้นเพิ่มได้คือสมาชิกที่ค่อนข้างมีรายได้สูง หรือมีฐานะพอสมควร การที่หุ้นเพิ่มขึ้นจากวิธีนี้ แม้จะสามารถนำมาแก้ปัญหาขาดสภาพคล่องได้ในระดับหนึ่ง แต่ผลประโยชน์คือเงินปันผล กลับตกอยู่กับสมาชิกกลุ่มเล็ก ๆ ข้อมูลปัจจุบันคือสมาชิกสามัญประมาณ ๑,๐๐๐ คนถือหุ้นถึงประมาณ ๔๕๐ ล้านบาท (ประมาณ ๔๕ เปอร์เซ็นต์) ในขณะที่สมาชิกส่วนใหญ่ปรมาณ ๘,๐๐๐ คนกลับถือหุ้นเพียง ปรมาณ ๕๕๐ ล้านบาท หรือประมาณ ๕๕ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ดังนั้นสิ่งที่ สอ.นย.ดำเนินการในปัจจุบันเพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกส่วนรวมมากที่สุดคือกำหนดให้สมาชิกที่ถือหุ้นต่ำกว่าเกณฑ์ ต้องถือหุ้นตามหลักเกณฑ์ (สมาชิกบางรายตั้งแต่สมัครครั้งแรกถือหุ้นเพียง ๒๐๐ บาท ปัจจุบันก็ยังถือหุ้นรายเดือน ๒๐๐ บาทเท่าเดิม ทั้งที่ต้องถือขั้นต่ำ ๑,๐๐๐ บาท ปัญหาเกิดขึ้นจากฐานข้อมูลเงินเดือนเราไม่สามารถขอรับการสนับสนุนจาก ทร.ได้ เนื่องจากเป้นข้อมูลรวมทั้งกองทัพ) สอ.นย.จึงแก้ปัญหาโดยให้สมาชิกที่มาขอกู้เงินหรือค้ำประกันเงินกู้และยังถือหุ้นต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งต้องนำสลิปเงินเดือนมาแนบประกอบนั้น สอ.นย.จะให้สมาชิกเหล่านี้เขียนคำร้องขอเพิ่มหุ้น ปัจจุบันสมาชิกกลุ่มนี้ได้เพิ่มหุ้นเป็นจำนวนมาก เดือนละหลายแสนบาท ต่อไปสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ สอ.นย.จะมีเงินทุนเพิ่มขึ้นจากการถือหุ้นของสมาชิกจนเพียงพอให้บริการแก่สมาชิกได้แม้อาจจะต้องใช้เวลาบ้าง และการถือหุ้นของสมาชิกกลุ่มนี้ ยังสร้างความมั่นคงให้แก่สมาชิกที่จะมีเงินออมเพิ่มขึ้น สิ้นปีได้รับเงินปันผลเพิ่มขึ้น ผลประโยชน์ที่ สอ.นย.จัดสรรให้แก่สมาชิกก็จะกระจายไปยังสมาชิกทุกกลุ่มไม่ใช่ได้ประโยชน์เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือกลุ่มเล็ก ๆ ครับ
ความคิดเห็นที่
10
โดย :ครรชิต สิงหนาท 2013-11-03 18:38:03
กระผมเป็นสมาชิกในกลุ่มเล็ก(1000คน)ที่รับผลประโยชน์คือเงินปันผล ขอเรียนว่าสมาชิกส่วนใหญ่ที่ได้รับอนุเคราะห์จากสหกรณ์แล้วพ้นทุกข์ ก็ได้ผลประโยชน์คือไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแพงให้นายทุน หลายท่านเหมือนเกิดใหม่เลยยังพอมีเหลือเก็บด้วย สมาชิกกลุ่มเล็กไม่เคยบ่นสหกรณ์หรอกครับ เรียนท่านผู้บริหารระดมสมองช่วยสมาชิกกลุ่มใหญ่เถิดก่อนที่จะไปเป็นเหยื่อพวกนอกระบบ
ความคิดเห็นที่
11
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2013-11-04 07:46:24
คำแนะนำของท่านสมาชิกกระผมจะนำเสนอให้ ผู้บริหารและคณะกรรมการพิจารณาต่อไปครับ
ความคิดเห็นที่
12
โดย :ครรชิต สิงหนาท 2013-11-16 13:49:29
กระผมอ่านรายงานแล้วเห็นท่านสรุปไว้ว่ามีสมาชิกกู้6000รายไม่กู้5000รายแสดงว่า พวกไม่กู้มีเยอะเลยนะครับ แล้วท่านที่กู้นี่ทำรายได้195ล้าน(96%)แสดงว่าเราอยู่ได้ก็เพราะท่าน6000คน นี่แหละ หาทางช่วยให้ท่านเหล่านี้ถึงคิวเร็วๆด้วยครับ
ความคิดเห็นที่
13
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2013-11-17 13:11:45
สมาชิกมีสองส่วนคือสามัญกับสมทบครับ สมาชิกที่กู้เงินจำนวน ๖,๐๐๐ ราย ๙๙ เปอร์เซ็นต์คือสมาชิกสามัญ และส่วนใหญ่ก็เป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย สมาชิกสามัญที่ไม่มีหนี้สินกับสหกรณ์มีเพียง ๓,๐๐๐ ราย ใน ๓,๐๐๐ รายนี้มีหนี้อยู่กับธนาคาร ประมาณพันกว่าราย จึงสรุปได้ว่าสมาชิกส่วนใหญ่ของ สอ.นย.ล้วนแต่มีหนี้สิน มากบ้าง น้อยบ้าง หนี้ที่เกิดประโยชน์บ้าง ไม่เกิดประโยชน์บ้าง ในขณะที่เงินออมภาคบังคับคือหุ้นก็ยังถือว่าน้อย ส่วนภาคสมัครใจคือเงินฝากยิ่งน้อยกว่ามาก บางท่านเปิดบัญชีไว้ครั้งแรก ๑๐๐ บาท ปัจจุบันเงินในบัญชีก็ยังไม่ได้ฝากเพิ่ม จึงถือว่าเป็นงานหนักของท่านคณะกรรมการที่จะต้องหันมาให้ความสัมคัญกับการส่งเสริมการออม มากกว่าเน้นผลกำไร เพราะมันคงไม่ใช่ตัวชี้วัดวัด สอ.นย.ของเราประสบความสำเร็จตามปรัชญาสหกรณ์
ความคิดเห็นที่
14
โดย :ภิญโญพจน์ พินิจมนตรี 2014-06-26 08:19:22
อ่านกระทู้มาทุกกระทู้แล้ว ผมว่าผู้ที่ท่านไม่เดือดร้อนท่านไม่กู้ ท่านก็ได้ปันผลท่านก็สมประโยชน์ของท่าน คนที่เดือดร้อนเขาจะกู้ไปทำอะไรก็เป็นเรื่องของเขา เขาจะกู้ไปโป๊ะธนาคารยอดเงินมันก็เท่าเดิมได้ตามสิทธิ เกิน 2 ปี กู้ได้ 65 เท่า ถ้ามันไม่พอโป๊ะหนี้เขาจะกู้ไปทำไมไม่เกิดประโยชน์ ถ้ามันพอแถมยังเหลือสักก้อนหนึ่ง เงินเดือนเหลือใช้ 30% มันก็ยังดีกว่าไม่ใช่เหรอ ดีกับสมาชิก ดีกับสหกรณ์ หรือคนที่จะกู้ไปโป๊ะธนาคารไม่ใช่สมาชิกสหกรณ์ หรือเป็นชนชั้นอีกชนชั้นหนึ่งของสมาชิกของสหกรณ์ทั้งหมด ถ้าให้เขากู้ส่วนที่เหลือจากสามสิบเปอร์เซ็นต์หนี้ธนาคารเขาหมดไหม ยังครับยัง แถมยังต้องมาโดนตัดหนี้สหกรณ์อีก ตัดหุ้นสหกรณ์อีก ระหว่างเป็นหนี้สหกรณ์ทางเดียวกับเป็นหนี้หลายทางท่านลองคิดดูว่าอันไหนมันดีกว่า ก็ขอแสดงความคิดเห็นแค่นี้ครับอึดอัด จากสมาชิกสหกรณ์ชนชั้นล่าง
ร่วมแสดงความคิดเห็น
ทะเบียน:
รหัสผ่าน: