การพูดจาของเจ้าหน้าที่สหกรณ์พูดจาได้สุดแย่
Posted:
สำเริง มาปากลัด
Date:
2016-11-15 08:30:59
ติดต่อสอบถามเรื่องที่สงสัยในเรื่องของเงินกู้แตเจ้าหน้าที่พูดจาโดยใช้อารามณ์ใส่ต่อสมาชิก ไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก เพราะการติดต่อเงินกู้ก็ต้องเดินทางไปติดต่อพอสงสัยก็บอกให้มาติดต่อที่ สอ.นย. ผม เองทำงานที่ บก.ทร. ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปผมจะดำเนินการลาออกจากสมาชิกนะครับเพราะถือว่าไม่เหมาะสมไม่ควรปฏิบัติต่อสมาชิก
ความคิดเห็นที่
1
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2016-11-15 09:26:01
ขอทราบรายละเอียดว่าท่านสมาชิกติดต่อกับเจ้าหน้าที่ท่านใด เมื่อใดเพื่อจะได้สอบสวนหาข้อเท็จจริง
ความคิดเห็นที่
2
โดย :สำเริง มาปากลัด 2016-11-15 12:36:17
ไม่ทราบคับ แค่โทรแล้วสวัสดีคะ สอ.นย. ไม่ได้แจ้งชื่อ (แผนกโอน) เมื่อ 15 พ.ย.59 เวลา 1450-1525 โดยประมาณ เพราะผมได้รับข้ออความจากธนาคารว่ามีเงินเข้าบัญชีจึงได้เอาสมุดไปปรับเช็คดู ก็เลยสงสัยยอดเงินที่ได้รับกับยอดเงินที่คาดว่าน่าจะได้รับ แต่ผมคิดคงไม่อยากเกิดไปนะครับแค่สอบถามกันจริงๆก็คงจะรู้ แต่ทีแน่ๆเสียความรู้สึกมากทั้งๆที่เราเป็น สมาชิกและเป็น ขรก.แต่การที่ จนท.พูดกับแบบใช้อารมณโดยที่สมาชิกแค่สงสัยยอดเงินที่ไม่ตรงก็น่าจะให้ความกระจ่างชัดไม่ใช่มีอารมณ์ แล้วมีการถามกลับด้วยว่ายังจะสงสัยอะไรอีกไหม...เนี่ยหรอคือการบริการ
ความคิดเห็นที่
3
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2016-11-15 14:47:42
ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบข้อมูลบางส่วนแล้ว จะขออนุญาตชี้แจงข้อสงสัยของสมาชิกเกี่ยวกับยอดเงินที่ได้รับว่าทำไมยอดเงินจึงไม่ตรงกับที่สมาชิกคิดว่าจะได้รับ รายการหักต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่อธิบายแล้วแต่สมาชิกไม่เข้าใจในวันพรุ่งนี้ รวมถึงการรักษามาตรฐานการให้บริการของเจ้าหน้าที่แก่สมาชิก
ความคิดเห็นที่
4
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2016-11-16 02:09:29
คำชี้แจงเรื่องข้อร้องเรียนของสมาชิก 1. ความเป็นมา - สมาชิกได้ขอกู้เงินสามัญเป็นจำนวนเงิน XXX,XXX บาท ซึ่งเป็นการกู้ก่อนที่สัญญาเงินกู้เดิมจะชำระเสร็จสิ้น (กู้รีไฟแนนซ์) โดย สอ.นย.จะต้องหักเงินจากเงินกู้ที่ท่านได้รับครั้งใหม่ไปชำระหนี้เงินกู้ตามสัญญาเดิม (เงินต้นและดอกเบี้ย) - เมื่อ 15 พ.ย.59 สมาชิกได้รับเงินกู้ โดยสหกรณ์ได้โอนเข้าบัญชีเงินฝากของท่านตามที่ได้แจ้งไว้ - ในช่วงเช้าของวันที่ 15 พ.ย.59 สมาชิกได้โทรศัพท์มาสอบถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับยอดเงินกู้ที่ได้รับ และเจ้าหน้าที่ได้แจ้งยอดเงินที่ท่านได้รับจริงให้ท่านทราบ - ในช่วงบ่ายของวันที่ 15 พ.ย.59 สมาชิกได้โทรศัพท์มาสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับยอดเงินที่ได้รับว่าทำไมจึงไม่ตรงกับยอดที่ท่านคาดว่าจะได้รับ - เจ้าหน้าที่ได้อธิบายรายละเอียดรายการหักต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริงให้สมาชิกทราบ แต่สมาชิกแจ้งว่ายังไม่เข้าใจและยังมีความสงสัยในรายละเอียดของการหักตามที่เจ้าหน้าที่แจ้ง - เจ้าหน้าที่แจ้งว่าหากยังมีข้อสงสัยให้มาติดต่อที่สำนักงาน สอ.นย.เพื่อจะได้สั่งพิมพ์ข้อมูลเกี่ยวกับรายการหักต่างๆ ออกจากระบบและอธิบายให้สมาชิกได้เข้าใจ - สมาชิกแจ้งว่ายังไม่สะดวกที่จะมาติดต่อที่สำนักงานสหกรณ์ เนื่องจากต้องปฏิบัติงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา
ความคิดเห็นที่
5
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2016-11-16 02:10:13
2. สาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของสมาชิกดังนี้ - สมาชิกเข้าใจว่าจำนวนเงินกู้ที่สมาชิกควรได้รับคือ (จำนวนเงินกู้ - หนี้สินเดิม = จำนวนเงินที่จะได้รับ) - แต่ข้อเท็จจริงคือ จำนวนเงินกู้ที่สมาชิกจะได้รับคือ (จำนวนเงินกู้ – หนี้สินเดิมพร้อมดอกเบี้ย – หนี้สินอื่นที่สมาชิกแจ้งให้หักชำระนี้ ซึ่งจะต้องแจ้ง ณ วันที่คำนวณสิทธิการกู้ – เบี้ยประกันชีวิต– ค่าธรรมเนียมโอนเงิน (10 บาท) = จำนวนเงินที่จะได้รับ) - ดอกเบี้ยเงินกู้ของสหกรณ์คิดตามเงินต้นคงเหลือเป็นรายวัน แต่สรุปยอดทุกสิ้นเดือน โดยในเดือน พ.ย.59 สหกรณ์คิดดอกเบี้ยของสมาชิกตามเงินต้นคงเหลือซึ่งสรุปยอดเมื่อ 31 ต.ค.59 เริ่มคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.59 ถึง 14 พ.ย.59 (สมาชิกชำระเงินกู้เดิมโดยหักจากเงินกู้ใหม่ที่ได้รับเมื่อ 15 พ.ย.59)
ความคิดเห็นที่
6
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2016-11-16 02:10:54
3.ปัญหาข้อร้องเรียนของสมาชิก - ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ที่ตอบคำถามของสมาชิกทางโทรศัพท์แล้ว ยอมรับว่าแสดงอาการหงุดหงิดจริง โดยอ้างว่าเนื่องจากได้พยายามอธิบายสมาชิกแล้วแต่สมาชิกยังไม่ยอมเข้าใจ - ผู้บังคับบัญชาจึงได้ว่ากล่าวตักเตือนเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวว่าแม้จะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นที่เกี่ยวกับการให้บริการสมาชิก เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีสิทธิที่จะรู้สึกหงุดหงิดหรือไม่พอใจ หากแก้ปัญหาไม่ได้ก็เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาที่จะแก้ปัญหาต่อไป ทั้งที่เพื่อรักษามาตรฐานในการให้บริการอันเป็นหัวใจสำคัญยิ่งของ สอ.นย. หากเจ้าหน้าที่กระทำผิดพลาดเพียงคนเดียวแม้เพียงเล็กน้อยก็ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรที่ทุกคนร่วมกันสร้างมา ที่ผ่านมาเคยมีปัญหาการกระทบกระทั่งหรือความไม่เข้าใจระหว่างสมาชิกกับเจ้าหน้าที่อยู่บ้าง แต่ผู้บังคับบัญชาก็ย้ำเตือนอยู่เสมอว่างานบริการสิ่งที่ต้องมีนอกเหนือจากความรู้จริงในหน้าที่ที่ตนเองรับผิดชอบแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีจิตบริการ ความอดทน ความรักในงานที่ตัวเองทำ และการให้บริการจะต้องไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าสมาชิกท่านนั้นจะเป็นข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ ลูกจ้าง พนักงานราชการ หรือ อส.ทพ. - สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้นามของ สอ.นย. ต้องขออภัยสำหรับความไม่สะดวกและความบกพร่องในการให้บริการจนทำให้เกิดปัญหาความไม่เข้าใจเกิดขึ้นและจะขอนำไปปรับปรุงแก้ไขโดยไม่มีข้อแม้
ความคิดเห็นที่
7
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2016-11-16 02:11:33
4.การลาออกจากสหกรณ์ของสมาชิก - สมาชิกมีสิทธิขอลาออกจากสหกรณ์ตามความประสงค์ของตนเองได้ แต่ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดในข้อบังคับของสหกรณ์ คือสมาชิกจะต้องไม่มีหนี้สินกับสหกรณ์ทั้งในฐานะผู้กู้หรือผู้ค้ำประกัน ดังนั้นกรณีของสมาชิกหากประสงค์จะลาออกก็สามารถนำเงินค่าหุ้นมาหักกลบลบหนี้พร้อมกับชำระเงินกู้ที่เหลือจนครบถ้วนก็สามารถลาออกได้ แต่โดยส่วนตัวแล้วไม่แนะนำให้สมาชิกลาออกเนื่องจากการที่ท่านเป็นสมาชิกสหกรณ์ถือเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกันตามอุดมการณ์สหกรณ์ นอกจากนั้นการลาออกยังจะทำให้ท่านเสียสิทธิต่างๆ อีกด้วย
ความคิดเห็นที่
8
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2016-11-16 02:12:14
5.แจ้งเพิ่มเติมล่วงหน้าเกี่ยวกับการนำเงินงวดที่หักตามสัญญาเงินกู้เดิมในสิ้นเดือน พ.ย.59 มาหักชำระหนี้เงินกู้ตามสัญญาใหม่ - เนื่องจากสมาชิกได้รับเงินกู้ใหม่ไปเมื่อ 15 พ.ย.59 ซึ่งเป็นการรับเงินกู้ที่เกิดขึ้นหลังจาก สอ.นย. ได้ทำการส่งหักเงินงวดตามสัญญาเงินกู้เดิมไปแล้วเมื่อต้นเดือน พ.ย.59 ดังนั้นเงินที่ส่งหักนี้จะกลายเป็นเงินส่งหักเกิน (เพราะสหกรณ์ได้หักหนี้เดิมไปหมดสิ้นแล้วเมื่อ 15 พ.ย.59) - เงินส่งหักเกินนี้ สอ.นย. จะนำมาหักเงินต้นและดอกเบี้ยตามสัญญาเงินกู้ใหม่ในสิ้นเดือน พ.ย.59 ซึ่งจะมีผลทำให้เงินต้นของสัญญาใหม่ลดลง - การหักเงินกู้ตามสัญญาใหม่ตามระบบจริงๆ จะเริ่มงวดแรกในสิ้นเดือน ธ.ค.59 เป็นต้นไป จึงแจ้งมาให้ทราบก่อนเพื่อป้องกันการเข้าใจผิด
ความคิดเห็นที่
9
โดย :สำเริง มาปากลัด 2016-11-16 05:48:57
ต้องขอขอบคุณครับที่ให้ข้อมูลและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพราะผมเองก็ไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการเช่นนี้เกิดขึ้นเช่นกัน เพราะผมเองสงสัยเรื่องเงินกู้ใหม่-เงินกู้ใหม่ -เงินกู้อื่นๆ = เงินสุทธิที่ได้รับ - เงินประกันชิวิตใหม่ +เงินประกันชีวิตเก่าที่ต้องได้คืน เพราะตอนที่ติดต่อที่แรกบอกว่าเมื่อได้รับเงินกู้ใหม่พร้อมตัดประกันชีวิตใหม่และจะเวนคืนเงินประกันชีวิตเดิมที่ทำไว้เดิม ก็เลยสงสัย รวมเงินประกันชีวิตเก่ามาด้วยหรือไม่ ไม่ใช่ว่าผมไม่เข้าใจ..แค่สงสัยนะครับ..ถ้าผมสงสัยแล้วถามไม่ได้หรือไม่ได้คิดตามกรอบของการเงินที่เกี่ยวข้อง แล้วผมจะโทรถามเพื่อ...ไม่ใช่กู้เงินแล้วรอเวลา..ถึงเวลาแล้วรอโอนเท่าไหร่ก็เท่ากันนั้นก็ไม่ใช่แล้วล่ะครับ ในครั้งนี้ผมถือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมและความเข้าใจ(ที่มองว่าผมไม่เข้าใจ)เป็นบทเรียนสอนตัวผมเองแล้วกันครับ ขอบคุณทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนร่วมกันในการแก้ไข เพราะผมเองก็เคยชื่นชม สอ.นย. มาเสมอนะว่าไม่ว่าจะเป็นการบริการหรือ จนท. ที่ผ่านๆมาสมาราถรักษามาตราฐานและพัฒนารูปแบบการบริการใหม่ๆขึ้นมาทันสมัยสามารถแข่งขันกับ สอ. อิื่นๆได้ พร้อมยังเป็นต้นแบบในด้านอื่นๆอีกด้วย
ความคิดเห็นที่
10
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2016-11-16 06:35:57
เรียนเพิ่มเติมเรื่องการจัดทำประกันชีวิตคุ้มครองเงินกู้ที่สหกรณ์กำหนดเพื่อลดภาระของทายาทและผู้ค้ำในการที่จะต้องชำระหนี้ในกรณีผู้กู้เสียชีวิต ในทางปฏิบัติการดำเนินการดังกล่าว สอ.นย. เป็นเพียงผู้ประสานงานระหว่างสมาชิกกับบริษัทประกันชีวิตผู้ให้บริการ รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิตโดยบวกจำนวนเงินที่สมาชิกจะต้องจ่ายเป็นค่าเบี้ยประกันชีวิตเข้าไปในวงเงินกู้ การตกลงใจเลือกบริษัท การทำสัญญาเอาประกันเป็นสัญญาระหว่างสมาชิกกกับริษัท โดยมีสหกรณ์เป็นผู้รับประโยชน์ และสามารถนำสินไหมประกันชีวิตมาหักชำระหนี้ให้แก่สหกรณ์ ส่วนการดำเนินการในเรื่องอื่นๆ ของบริษัทนั้นสหกรณ์ไม่ได้มีผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมกับบริษัทประกันชีวิตแต่อย่างใด ปัจจุบันนี้อัตราเบี้ยประกันชีวิตที่สมาชิกต้องจ่ายนั้นได้รับส่วนลดจากอัตราเบี้ยปกติมากกว่า 20 % ซึ่งส่วนลดนี้จริงๆ แล้วเป็นผลประโยชน์ที่สหกรณ์จะต้องได้รับและนำส่งเข้าเป็นรายได้ของสหกรณ์ แต่ สอ.นย.ได้ยกประโยชน์ส่วนนี้ให้แก่สมาชิก โดยแจ้งบริษัทประกันชีวิตให้นำไปคำนวณเป็นเบี้ยประกันชีวิตที่ีลดแล้ว เพื่อสมาชิกจะได้จ่ายเบี้ยประกันที่ต่ำลง สำหรับการเวนคืนกรมธรรม์นั้น เมื่อสมาชิกได้รับเงินกู้ตามสัญญาใหม่ ก็ถือว่าสัญญาประกันชีวิตฉบับเดิมก็ไม่ได้ยึดโยงกับสัญญาเงินกู้ฉบับเดิมที่ยกเลิกแล้วอีกต่อไป ดังนั้นสมาชิกก็มีสิทธิขอเวนคืนได้ แต่การดำเนินการดังกล่าวสหกรณ์ไม่ได้นำเบี้ยประกันชีวิตเดิมมาหักหนี้เก่าแต่อย่างใด หากสมาชิกคิดว่าสัญญาประกันชีวิตเดิมยังมีประโยชน์ก็อาจไม่เวนคืนกรมธรรม์เพื่อให้มีความคุ้มครองทั้งสองกรมธรรม์ เรื่องนี้สมาชิกต้องพิจารณาให้ดี เนื่องจากเคยเกิดปัญหาจากการที่สมาชิกเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวก่อนที่สัญญาใหม่จะครบ 1 ปี ส่วนสัญญาเก่าก็ถูกเวนคืนไปแล้ว และเมื่อบริษัทตรวจพบว่าสมาชิกเคยมีประวัติการเจ็บป่วยที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตแต่ไม่ได้แจ้งให้บริษัททราบ ก็เป็นข้ออ้างในการที่จะปฏิเสธการจ่ายสินไหมได้
ร่วมแสดงความคิดเห็น
ทะเบียน:
รหัสผ่าน: