นโยบายกู้โป๊ะธนาคารเปลี่ยนยังครับ
Posted:
ภิญโญพจน์ พินิจมนตรี
Date:
2014-06-02 10:02:36
กู้โป๊ะธนาคารต่างๆ สหกรณ์เปลี่ยนนโยบายหรือยังคับเพราะเป็นสมาชิกใกล้ครบสองปีแล้ว
ความคิดเห็นที่
1
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2014-06-03 08:13:03
ยังครับ
ความคิดเห็นที่
2
โดย :ศิริพันธ์ บุนนาค 2014-06-04 08:35:50
นโยบายเดิมคืออะไรครับไม่เห็นทราบข่าวเลย อยากทราบเหมือนกันครับ
ความคิดเห็นที่
3
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2014-06-04 13:30:01
สอ.นย.ให้กู้ตามเปอร์เซ็นต์เงินเดือนคงเหลือ โดยไม่รับชำระหนี้ธนาคารครับ หมายความว่าท่านที่เป็นหนี้ธนาคารแล้วมาขอกู้กับ สอ.นย.โดยขอให้คำนวณยอดเงินกู้โดยเอาหนี้ธนาคารมารวมด้วยเพื่อให้ สอ.นย.ชำระหนี้ธนาคารให้ไม่ได้ครับ
ความคิดเห็นที่
4
โดย :ภิญโญพจน์ พินิจมนตรี 2014-06-24 09:46:46
แล้วคิดว่านโยบายนี้ภายในปีนี้จะเปลี่ยนไหมครับ เพราะจะเป็นสมาชิกครบสองปีภายใน พ.ย.57 ถ้าไม่เปลี่ยนก็จะได้ให้คนกู้เขาหาคนค้ำใหม่ เพราะไม่มีภาระเรื่องเงินกู้ เพราะ จำเป็นต้องกู้โป๊ะธนาคารกรุงไทยที่มาสมัครสหกรณ์เพราะมีจุดมุ่งหมายที่จะกู้โป๊ะกรุงไทย ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่
5
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2014-06-24 16:25:16
เมื่อ สอ.นย.แก้ปัญหาเงินกู้สามัญได้เป็นปกติ คือสมาชิกไม่ต้องรอคิวนานเหมือนเมื่อปีที่ผ่านมาแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ที่คณะกรรมการอาจอนุมัติเปิดให้สมาชิกกู้เพื่อชำระหนี้ธนาคาร แต่หากจะเปิดให้กู้อาจจะเปิดเป็นครั้งคราว โดยกำหนดระยะเวลาให้กู้ หรือวงเงินให้กู้ โดยกำหนดเป็นโครงการเนื่องจากในปัจจุบันจากข้อมูลที่มี สมาชิก สอ.นย.ที่ไปกู้เงินจากธนาคารมีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งหากเปิดให้กู้แบบเปิดโอเพ่นก็คงมีสมาชิกมาขอกู้เป็นจำนวนมากจนส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของ สอ.นย.ขึ้นอีก
ความคิดเห็นที่
6
โดย :ภิญโญพจน์ พินิจมนตรี 2014-06-26 07:39:28
ได้ยินข่าว (ลือ) ว่าสหกรณ์กู้เงินจากธนาคารกรุงไทยจึงมีข้อตกลงกับธนาคารว่าจะไม่ให้สมาชิกกู้โป๊ะธนาคารกรุงไทยอันนี้คงไม่จริงน่ะครับ ถ้าเป็นจริงก็กรุณาแจ้งให้สมาชิกทราบตรง ๆ เพราะสมาชิกหลายท่านที่มาสมัครสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ นย. เพื่อหวังว่าซักวันหนึ่งจะกู้สหกรณ์เพื่อโป๊ะธนาคารกรุงไทยเพราะรู้ซึ้งแล้วว่ากู้สหกรณ์ดีกว่าเพราะได้ปันผล และได้เฉลี่ยคืน แต่ธนาคารกรุงไทยไม่ได้อะไรเลย แถมใบเสร็จรับเงินใบแจ้งยอดหนี้ไม่มีกรณีของผม 5 เดือนมีใบเสร็จมาตลอดพอหลังจากนั้นไม่มีมาเลย พอไปขอทำท่าทางเหมือนไม่พอใจเราซะอีก บอกเอ้าเอาไปเลยทั้งปีจะได้ไม่ต้องมาถามอีก (สาขาบ้านฉาง) ผมก็เลยมีความหวังอยู่กับสหกรณ์ทางเดียว ถ้าสหกรณ์ไม่สามารถช่วยเหลือสมาชิกได้จริงๆก็จะได้หาทางออกใหม่ไว้แต่เนิ่นๆ เพราะผมติดแค่ค้ำเขาคนเดียว ถ้าลาออกไปสมัครสหกรณ์ใหม่ก็ต้องลำบากหาคนค้ำใหม่อยู่ดี ถ้าสหกรณ์ให้กู้ถึงจะช้าหน่อยแต่ก็ยังมีความหวัง จะเป็นพระคุณยิง
ความคิดเห็นที่
7
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2014-06-27 14:25:42
ข่าวลือนั้น ยืนยันว่าไม่จริง 100 % ครับ สาเหตุที่ไม่ให้กู้โปะธนาคาร (ทุกธนาคาร) เป็นเพราะเราขยายวงเงินกู้จนทำให้สมาชิกมาขอกู้เงินเป็นจำนวนมาก จนทุนดำเนินงานเราไม่เพียงพอที่จะจ่ายเงินกู้ให้แก่สมาชิก เป็นผลให้สมาชิกต้องรอรับเงินกู้เป็นเวลานานหลายเดือน และจากเดิมที่เราให้กู้โดยยอมให้กู้ไปโปะธนาคารด้วยก็ทำให้สมาชิกที่กู้เพราะต้องการใช้เงินจริง ๆ เดือดร้อนเพราะต้องรอคิวนานด้วย เนื่องจากการกำหนดคิวเงินกู้สามัญมีเพียงคิวเดียว คณะกรรมการจึงได้มีมติชะลอการให้กู้เพื่อชำระหนี้ธนาคารออกไปก่อน โดยให้กู้ตามสิทธิปกติเท่านั้น ผลจากนโยบายดังกล่าวส่งผลดีคือสมาชิกไม่ต้องรอเงินกู้นานเหมือนเมื่อปีที่แล้ว โดยปัจจุบันสมาชิกรอรับเงินกู้นานที่สุดไม่เกิน 2 เดือนครับ และอีกไม่นานก็คงเข้าสู่ภาวะปกติ ผมจึงได้เรียนว่ามีแนวโน้มที่คณะกรรมการจะให้กู้เพื่อโปะธนาคารโดยกำหนดเป็นโครงการเป็นคราวๆ ไปครับ
ความคิดเห็นที่
8
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2014-06-27 14:25:43
ข่าวลือนั้น ยืนยันว่าไม่จริง 100 % ครับ สาเหตุที่ไม่ให้กู้โปะธนาคาร (ทุกธนาคาร) เป็นเพราะเราขยายวงเงินกู้จนทำให้สมาชิกมาขอกู้เงินเป็นจำนวนมาก จนทุนดำเนินงานเราไม่เพียงพอที่จะจ่ายเงินกู้ให้แก่สมาชิก เป็นผลให้สมาชิกต้องรอรับเงินกู้เป็นเวลานานหลายเดือน และจากเดิมที่เราให้กู้โดยยอมให้กู้ไปโปะธนาคารด้วยก็ทำให้สมาชิกที่กู้เพราะต้องการใช้เงินจริง ๆ เดือดร้อนเพราะต้องรอคิวนานด้วย เนื่องจากการกำหนดคิวเงินกู้สามัญมีเพียงคิวเดียว คณะกรรมการจึงได้มีมติชะลอการให้กู้เพื่อชำระหนี้ธนาคารออกไปก่อน โดยให้กู้ตามสิทธิปกติเท่านั้น ผลจากนโยบายดังกล่าวส่งผลดีคือสมาชิกไม่ต้องรอเงินกู้นานเหมือนเมื่อปีที่แล้ว โดยปัจจุบันสมาชิกรอรับเงินกู้นานที่สุดไม่เกิน 2 เดือนครับ และอีกไม่นานก็คงเข้าสู่ภาวะปกติ ผมจึงได้เรียนว่ามีแนวโน้มที่คณะกรรมการจะให้กู้เพื่อโปะธนาคารโดยกำหนดเป็นโครงการเป็นคราวๆ ไปครับ
ความคิดเห็นที่
9
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2014-06-28 09:16:45
สำหรับการกู้ยืมเงินนั้น สอ.นย.กู้ยืมตามความจำเป็น และกระจายแหล่งเงินโดยพิจารณาต้นทุนดอกเบี้ยเป็นหลัก สถาบันการเงินหลักที่ สอ.นย.กู้ยืมนั้น ประกอบด้วยสหกรณ์ต่าง ๆ เช่น สอ.โรงพยาบาลพระปกเกล้า สอ.วชิระพยาบาล สอ.มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นต้น ส่วนธนาคารต่าง ๆ นั้น จะมีทั้ง ออมสิน ธกส. กรุงศรี ฯ ธนชาต ทหารไทยและกรุงไทย ซึ่งเป็นการกู้ยืมระยะสั้นเกือบทั้งสิ้น เมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา สอ.นย.มียอดเงินกู้ยืมเมื่อสิ้นปีประมาณ 700 บาท ป้จจุบันเงินกู้ยืมภายนอกเหลือไม่ถึง 500 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า สอ.นย.มีแหล่งให้กู้ยืมเป็นจำนวนมาก และทุกสถาบันการเงินมีความเชื่อมั่นต่อการดำเนินงานของ สอ.นย.พร้อมที่จะเพิ่มวงเงินให้ตลอดเวลา จึงเป็นไปไม่ได้ในเชิงตรรกะที่ สอ.นย.จะต้องไปกู้ยืมจากธนาคารที่คิดดอกเบี้ยแพงกว่าคนอื่นครับ
ความคิดเห็นที่
10
โดย :ภิญโญพจน์ พินิจมนตรี 2014-06-30 10:48:47
ขอบคุณครับสำหรับการตอบกระทู้ครับ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีครับ มีอยู่ 2 ประเด็นที่ไม่เข้าใจครับ 1.สมาชิกจำเป็นต้องใช้เงินจริง ๆ คือใคร ลองคิดกลับกันน่ะครับคนที่ไปกู้กรุงไทยนั้นเพื่อไร คงเพราะโป๊ะที่อื่น เช่น สหกรณ์ครับ จะเหลือสักเท่าไหร่เพื่อใช้ครับ คนเราถ้ามีทางเลือกอื่นคงไม่ไปกู้ธนาคารหรอกครับ ที่มันดอกแพงกว่า ปันผลไม่ได้ เฉลี่ยคืนไม่มี เพราะไม่มีทางเลือกครับ โป๊ะที่อื่นแล้วจะเหลือสักเท่าไหร่ ธนาคารตัดไป 70% แล้วเงินที่เหลือในสลิบทำอะไรได้คับ 2.คนที่กู้โป๊ะธนาคารเขาก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งครับ เขาจะกู้ไปทำอะไรมันก็เรื่องของเขาครับ เขาส่งเรื่องกู้โป๊ะธนาคารไปก็ไม่ใช่ว่าเขาจะมีสิทธิพิเศษได้ก่อนคนอื่น หรือเขาจะได้ยอดมากกว่าคนอื่นครับขอให้เข้าใจ เขาก็พร้อมที่จะเข้าคิวเหมือนกับคนอื่น ยอดเงินก็ใช้สิทธิเหมือนกับคนอื่นครับ ไม่ถึง 2 ปี 55 เท่า มากกว่า 2 ปี 65 เท่า ไม่ต่างกันครับ แค่เงินที่เขาจะได้มันน้อยกว่าคนที่ไม่ได้โป๊ะเท่านั้นครับ แต่เขาจะได้ประโยชน์ตรงไหนละครับ 1.ดอกเบี้ยต่ำกว่าธนาคารครับ 2.สิ้นปียังได้ปันผลและเฉลี่ยคืนครับ 3.ตัดได้สักประมาณหนึ่งก็สามารถส่งเรื่องกู้ใหม่ได้ครับ 4.และเขายังเหลือ 30% ไว้ใช้ทำอะไรได้อีกครับ เช่น กู้ฉุกเฉินครับ ข้อเสียของการเป็นหนี้ธนาคารอยู่เพราะสหกรณ์ไม่ให้กู้โป๊ะน่ะครับ 1.ธนาคารตัด 70 % แล้ว สลิบทำอะไรไม่ได้ครับ 2.ยิ่งเหลือน้อยไปอีกตัดหุ้นสหกรณ์อีก 3.ตัดฉุกเฉินอีกเพราะกู้อย่างอื่นไม่ได้อีกครับ ข้อดีถ้าสหกรณ์ให้กู้โป๊ะธนาคารละครับ 1.หนี้ธนาคารหมดครับ 2.ดอกเบี้ยไม่ต้องเสียแพง 3.สิ้นปีมีปันผลและเฉลี่ยคืน 4.ถ้าตัด 10% เป็นหุ้น หุ้นเพิ่มขึ้นครับ 5.เงินที่เหลือยังสามารถเอาไปใช้หนี้อย่างอื่น เช่น หนี้นอกระบบที่ต้องเสียดอกได้ครับ หนี้ในระบบไม่เท่าไหร่หรอกครับมันตัดเงินเดือนได้ แต่หนี้นอกระบบหนักกว่า ได้โป๊ะธนาคาร โป๊ะหนี้อย่างอืนเหลือยังเอาไปใช้หนี้นอกระบบหมดอีก แล้วอย่างไหนมันดีกว่ากันละครับ ตอนนี้มันรู้สึกว่ารู้สึกน้อยใจเพราะกู้สามัญโป๊ะธนาคารไม่ได้ กู้ได้แต่ฉุกเฉินอย่างเดียว จะส่งเรื่องกู้เพื่อขอเข้าคิวกับคนอื่นก็ไม่มีสิทธิ ข้อเสนอน่ะครับถึงจะแยกคิดผู้ที่กู้โป๊ะธนาคารออกเป็นบัญชีอีกบัญชีหนึ่ง โดยให้คนกู้ปกติ 10 คน ให้คนกู้โป๊ะ 4 คน ก็ยังไม่ว่ากันครับ เพราะอย่างน้อยยังมีความหวังครับ ไม่ใช่ว่ามีแต่คำตอบที่ไม่แน่นอน ว่ามีแนวโน้มที่จะให้ อาจจะให้ แล้วมันเป็นคำตอบที่แน่นอนตรงไหนครับ ก็แค่จะอธิบายซึ่งผลดีผลเสียให้ผู้บริหารฟังครับ แต่ก็ไม่ได้หวังอะไรหรอกครับ เพราะผู้บริหารท่านไม่เคยประสบปัญหานี้ มีแต่ข้าราชการชั้นผู้น้อยเท่านั้นแหละครับที่ประสบปัญหานี้ ขอคุณครับ แสดงความคิดเห็นเพื่อขอความเห็นใจและขอความเป็นธรรมและยุติธรรมที่มันมีน้อยมากในประเทศนี้ครับ ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่
11
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2014-06-30 19:08:46
้ตามที่ท่านสมาชิกได้ชี้แจงถึงเหตุผลความจำเป็นของการไปกู้ธนาคาร และได้อธิบายถึงข้อดี ขัอเสียของการใช้บริการกับธนาคารหรือสหกรณ์นั้น แสดงว่าท่านเป็นผู้ที่เข้าใจระบบสหกรณ์เป็นอย่างดีในหลักการการช่วยเหลือตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกันของสมาชิก ขอเรียนว่าเงินทุนดำเนินงานของ สอ นย ส่วนใหญ่มาจากสมาชิก ดังนั้นการดำเนินงานจึงต้องพิจารณาถึงผลประโยชน์ของสมาชิกในภาพรวมทั้งหมด สอ นย มีสมาชิกมากกว่าหนึ่งหมื่นคน สมาชิกที่ต้องกู้เงินจาก สอ นย เพื่อนำไปใช้จ่ายตามความจำเป็น หรือเพื่อลงทุนประกอบอาชีพมีประมาณหกพันกว่าคน โดยมีสมาชิกที่ไปกู้ธนาคารประมาณสองพันคน เมื่อ สอ นย ขยายวงเงินให้กู้เพิ่มขึ้นนอกจากจะมีสมาชิกที่กู้ยืมตามปกติจำนวนหนึ่งแล้วยังมีสมาชิกที่มากู้ไปโปะธนาคารอีกประมาณแปดร้อยคนจนทำให้ สอ นย ประสบปัญหาขาดเงินทุนหมุนเวียน จนต้องกู้ยืมจากภายนอกจนเกือบเต็มวงเงินที่สามารถกู้ได้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ และส่งผลกระทบต่อ สอ นย และสมาชิกโดยส่วนรวมตลอดสองปีที่ผ่านมา และปัจจุบันยังมีสมาชิกที่รอกู้ไปโปะธนาคารอีกพันกว่าคนเพราะรู้สึกว่าดอกเบี้ยธนาคารแพงกว่า สอ นย เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว สอ นย จึงต้องมองหาวิธีแก้ปัญหาในภาพรวมที่คิดว่าจะต้องให้เกิดความเป็นธรรมกับสมาชิกทุกๆส่วน แนวทางจึงต้องออกมาในลักษณะที่ต้องชลอการให้กู้โปะธนาคารออกไปก่อนเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับคนที่เดือดร้อนจริงๆ ไม่ใช่เพราะเห็นว่าดอกเบี้ยสหกรณ์ถูกกว่าจึงอยากจะกู้กับ สอ นย ครับ เพราะหากยังคงให้กู้โปะธนาคารอีกต่อไปเพื่อดึงสมาชิกกลับมาทั้งหมด ปัญหาการขาดสภาพคล่องคงมีอีกต่อไปอีอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 5 ปี จนอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของสมาชิกในภาพรวม ซึ่งอาจจะทำให้กระทบต่อความมั่นคงของ สอ นย อย่างคาดไม่ถึง
ความคิดเห็นที่
12
โดย :ฐากร พันธะปลิว 2014-07-22 15:13:53
ผมอยากจะให้กรรมการทบทวน ความหมายคำว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ ตามระเบียบฯและวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสหกรณ์ สมาชิกสหกรณ์ หมายถึง... แล้วมาดูว่าก่อนที่จะตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ นย.นั้น ข้าราชการในสังกัด นย.ต้องโดนบังคับให้เป็นสมาชิกทุกคน ถ้าใครไม่เป็นต้องเขียนรายงานชี้แจง...พอต้ังตัวได้มีเงินทุนเยอะแล้วแทบจะไม่ต้องให้สมาชิกมีหุ้นด้วยซ้ำไป สมาชิกมีหน้าที่ฝากเงินกับกู้เงินเท่านั้นเอง ถ้าไม่ผิดระเบียบฯ ก็ทำแล้ว สมาชิกที่มีเงินทุนเรือนหุ้นมากๆและเงินฝากเยอะมีใครบ้าง.กล่มนี้จะไม่มีปัญหาทางการเงินแน่นอน แต่สมาชิกกลุ่มใหญ่ที่กู้มาตั้งแต่แรกเริ่มสรา้งสหกรณ์ ตอนนี้ก็ยังเป็นหนี้ท่วมหัวเหมือนเดิมแต่มีปัญญาใช้หนี้ จะหมดหนี้ก็เกษียรหรือตาย เพราะมีทั้งคนค้ำและประกันหรือมีฌาปณกิจที่บังคับให้ทำ ผมว่าสหกรณ์.. ไม่ล้ม...ล้านเปอ ถ้าจะล้มก็คงเป็นเพราะกรรมการฯคอรัปชั่น เหมือนสหกรณ์ยูเนี่ยน.. ผมอยากให้มองเป็นกลางๆว่า"คนไม่เดือดร้อนคงไม่บากหน้ามาขอกู้เงินตามสิทธิ ของตัวเองหรอกครับ"
ความคิดเห็นที่
13
โดย :ประสิทธิ์ชัย แก้วมณี 2014-07-23 08:24:02
สมาชิกท่านนี้มีความเข้าใจในเรื่องสหกรณ์เป็นอย่างดี และอาจจะมากกว่าผมด้วยซ้ำ ผมจึงไม่มีอะไรที่จะอธิบายในเรื่องค่านิยม ปรัชญา อุดมการณ์ หลักการและวิธีการสหกรณ์ แต่อยากจะเรียนเพื่อทำความเข้าใจในบางประเด็นที่ยังคลาดเคลื่อนคือ ในเรื่องการถือหุ้นซึ่งเป็นเรื่องการออมของสมาชิก สอ.นย.ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ โดยได้กำหนดหลักเกณฑ์ให้สมาชิกถือหุ้นตามเงินได้รายเดือน ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้ถือหุ้นตามหลักเกณ์ เนื่องจากปัญหาการสนับสนุนข้อมูลเงินเดือนจาก ทร.แต่ สอ.นย.ก็ได้พยายามหาวิธีการให้สมาชิกถือหุ้นตามหลักเกณฑ์ให้ได้เช่น เมื่อสมาชิกมาติดต่อทำธุรกรรม แล้วพบว่ายังไม่ได้ถือหุ้นตามเกณฑ์ก็จะให้สมาชิกดำเนินการไปเลย รวมถึงการกำหนดการถือห้นขั้นต่ำ 10 เปอรืเซ็นต์ของวงเงินกู้ เพื่อให้สมาชิกออมเงินควบคู่กันไปด้วย แม้ในข้อเท็จจริงการที่สมาชิกถือหุ้นเป็นจำนวนมากจะเป็นภาระด้านต้นทุน เพราะที่ผ่านมา สอ.นย.ต้องจ่ายปันผลประมาณร้อยละ 7 ในขณะที่การให้กู้แก่สมาชิกเมื่อหักเฉลี่ยคืนแล้วอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงคือร้อยละ 6.6 เท่านั้น (ข้อมูลปี 2556) นั้นหมายความว่ายิ่งมีหุ้นมาก สอ.นย.ก็จะต้องมีภาระที่จะต้องหาเงินรายได้จากส่วนอื่นมาจ่ายปันผลในครบตามอัตรา แต่คณะกรรมการทุกชุดที่ผ่านมาก็ไม่ได้เห็นว่านี่เป็นภาระแต่อย่างใด แต่เป็นหน้าที่ที่จะต้องจูงใจและส่งเสริมให้สมาชิกออมเงินให้มากขึ้น เป็นเป็นการวางรากฐานให้แก่ตนเองและครอบครัว เพื่อให้มีความอยู่ดีกินดีตามปรัชญาสหกรณ์ ส่วนการให้กู้ยืมนั้นในหลักการแล้วสมาชิกมีสิทธิกู้ยืมได้ตามหลักเกณฑ์ที่ สอ.นย.กำหนด ซึ่งการบริหารงานสหกรณ์ แหล่งเงินทุนมาจากหลาย ๆ แหล่ง ส่วนใหญ่จะมีที่มาจากสมาชิก ดังนั้นคณะกรรมการจึงมีหน้าที่บริหารเงินทุนให้เกิดประโยชน์กับสมาชิกส่วนรวมมากที่สุด พร้อมๆ ๆ กับจะต้องพิจารณาเรื่องความเสี่ยงด้วย สิ่งแรกที่จะต้องพิจารณาคือ สมาชิกกู้ไปเพื่ออะไร ก่อประโยชน์งอกเงยหรือไม่ สามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อนจำเป็นได้หรือไม่ ส่งเสริมฐานะความมั่นคงให้แก่สมาชิกหรือไม่ เมื่อวัตถุประสงค์แห่งการกู้เป็นไปตามหลักเกณฑ์สมาชิกก็จะได้รับอนุมัติให้กู้โดยไม่มีข้อแม้ คณะกรรมการเข้าใจีว่าสมาชิกทุกคนที่มาขอกู้เงินย่อมมีความเดือดร้อนจำเป็น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากความต้องการมากกว่าความสามารถในการตอบสนอง ดังนั้นการจัดลำดับจึงมีความจำเป็น และคณะกรรมการได้ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่าสมาชิกที่มากู้เงินโดยตรงน่าจะมีความเดือดร้อนจำเป็นมากกว่าสมาชิกที่ไปกู้ธนาคารแล้วมากู้ สอ.นย. ไปชำระหนี้ธนาคารเพื่อลดภาระดอกเบี้ย ดังนั้นจึงได้มีมติให้กู้ได้ตามเปอร์เซ็นต์คงเหลือเท่านั้น โดยไม่ให้กู้เพื่อนำไปชำระหนี้ธนาคารตามที่สมาชิกทุกคนได้รับทราบแล้ว
ร่วมแสดงความคิดเห็น
ทะเบียน:
รหัสผ่าน: